เยอรมนี กับความล้มเหลวในฟุตบอลโลก 2022

เยอรมนี กับความล้มเหลวในฟุตบอลโลก 2022

เยอรมนี กับความล้มเหลวในฟุตบอลโลก 2022

ขึ้นชื่อว่าทีมชาติเยอรมนี สำหรับแฟนฟุตบอลทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะนี่คือมหาอำนาจลูกหนังชาติหนึ่งของโลกใบนี้ ที่ประกาศศักดาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 4 สมัยด้วยกัน พ่วงด้วยแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปอีก 3 สมัย บวกกับเกียรติยศอีกมากมายนับไม่ถ้วน จึงทำให้การแข่งขันในทุกครั้งพวกเขามักจะถูกหยิบยกให้เป็นตัวเต็งที่จะได้คว้าแชมป์อยู่เสมอ

และฟุตบอลโลก 2022 ก็เช่นเดียวกัน เยอรมนี ถูกยกให้เป็นทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์โลกมาครอง พวกเขาถูกจัดให้อยู่สายเดียวกันกับ ญี่ปุ่น, สเปน, และคอสตาริกา เมื่อมองแล้ว พวกเขาคงจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายพร้อมกับทีมชาติสเปนแบบไม่ยากเย็น แต่ความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นลูกทีมของ ฮันซี่ ฟลิค พลาดท่าพ่ายให้กับญี่ปุ่นตั้งแต่นัดแรก, เสมอกับสเปนในเกมที่สอง

 

 

และแม้ว่านัดสุดท้ายพวกเขาจะเอาชนะคอสตาริกาได้ แต่ญี่ปุ่นกลับพลิกชนะสเปนไปแบบเหลือเชื่อ ทำให้ “อินทรีเหล็ก” ตกรอบแรกไปแบบพลิกความคาดหมาย และนี่คือเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้พวกเขาล้มเหลวในการแข่งขันครั้งนี้

นักเตะหลายคนขาดประสบการณ์ในเกมระดับชาติ – หากมองนักเตะทีมชาติเยอรมนีชุดนี้จะเห็นได้ว่ามีนักเตะหลายคนที่ติดทีมชาติไม่ถึง 20 นัดด้วยกัน หากสิ่งที่ ฟลิค บอกว่าต้องการจะถ่ายสายเลือดใหม่ ก็ไม่น่าจะใช่เพราะนักเตะบางคนในชุดนี้อายุก็ปาเข้าไปจะเลข 3 แล้ว แต่สถิติการติดทีมชาติยังถือว่าน้อยมาก บางคนอาจจะแย้งว่าหลังจากจบศึกยูโร 2020 ก็มีเกมระดับชาติแข่งขันหลายนัด แต่นั่นคือการแข่งขันในรอบคัดเลือกซึ่ง ฟลิค ต้องมีการเรียกนักเตะหมุนเวียนกันไป แต่พอในการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์จริงๆ นักเตะที่มีประสบการณ์กลับไม่ได้รับโอกาสเลยทำให้เวลาเจอกดดันจากการแข่งขันภายในเกม นักเตะจึงรนและเสียรูปแบบที่จัดวางเอาไว้

 

 

ฟลิค ต้องการจะถ่ายสายเลือดใหม่ – เหตุผลอย่างต่อมาก็มีอยู่ในข้อแรกนั่นคือการที่ ฮันซี่ ฟลิค ต้องการจะถ่ายสายเลือดใหม่ให้กับทีมชาติเยอรมนี แต่อย่างที่ได้กล่าวไปว่า นักเตะบางคนที่ถูกเรียกมาอายุก็จะ 30 ปีอยู่แล้ว ดังนั้นการที่ฟลิค ต้องการจะถ่ายเลือดใหม่ก็ควรจะเรียกนักเตะดาวรุ่งหรือนักเตะที่อายุยังน้อยแต่ฟอร์มดีเข้ามาจะดีกว่า อย่างน้อยเจ้าตัวจะได้มีข้ออ้างหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

 

ประมาทคู่แข่ง – ในเกมแรกนั้น เยอรมนี จัดทีมแบบฟูลทีมซึ่งหลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า “อินทรีเหล็ก” ประมาทคู่แข่งอย่างไร นั่นคือพอทีมได้ประตูขึ้นนำ พวกเขาไปปล่อยให้ญี่ปุ่นมีพื้นที่เล่นมากเกินไป และฟุตบอลสไตล์ญี่ปุ่น คือการวิ่งสู้ฟัด และยิ่งหากพวกเขาครองบอลได้ก็จะมีเกมบุกอย่างต่อเนื่องจนคู่แข่งโงหัวไม่ขึ้น ซึ่ง “อินทรีเหล็ก” ก็โดนพายุจากญี่ปุ่นกระหน่ำจนกระทั่งเสียประตูแรก และหลังจากนักเตะก็เริ่มมีอาการเหนื่อยล้าจากการวิ่งไล่บอลกลับคืนมา หากสังเกตดีๆ ตอนเสียประตูที่สอง ญี่ปุ่นอาศัยการโยนบอลยาวเข้าไป และใช้สปีดหนีกองหลังเข้าไปยิงผ่านมือนอยเออร์เข้าไป ซึ่งทุกอย่างผิดพลาดจากความประมาทของ ฟลิค และลูกทีมเอง

 

 

เมินนักเตะมีประสบการณ์ – สำหรับข้อนี้ของเยอรมนี จะมีเหตุผลที่คล้ายกับข้อ 1 และ ข้อ 2 นั่นคือการที่เทรนเนอร์หนุ่มต้องการจะเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่ แต่เจ้าตัวก็ลืมไปว่านักเตะที่เรียกมานั้นหลายๆ คนก็อายุมากและขาดประสบการณ์ในทีมชาติ และกลายเป็นคำถามที่แฟนบอลถามฟลิคตลอดทั้งการไม่เรียกตัว แมท ฮุมเมิ่ลส์ และ มาร์โก รอยส์ มาร่วมทีมชุดนี้ ทั้งๆ ที่ทั้งสองคนมีฟอร์มการเล่นที่ดีกว่านักเตะรายอื่นในทีมบางคนเสียอีก อย่างไรก็ตามฟลิคยังมีโอกาสอีก 4 ปี ที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดเหล่านี้ หรือไม่แน่ว่าอนาคตเขาอาจจะกระเด็นออกจากทีมก็เป็นได้

 

 

 

# เยอรมนี กับความล้มเหลวในฟุตบอลโลก 2022

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *