กัปตันทีมสโมสรหงษ์แดง ลิเวอร์พูล ที่ควรค่าแก่การยกย่อง

กัปตันทีมสโมสรหงษ์แดง ลิเวอร์พูล ที่ควรค่าแก่การยกย่อง
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษเล่นในตำแหน่งกองกลาง ปัจจุบัอยู่กับสโมสรหงษ์แดงลิเวอร์พูลและเป็นนักเตะตัวทีมชาติของประเทศอังกฤษอีกด้วย ในช่วงเวลาของการค้าแข้งที่ผ่านมาเฮนเดอร์สันเคยอยู่กับซันเดอร์แลนด์มาก่อน และ ย้ายมาลิเวอร์พูลในปี 2011 ต่อมาในปี 2014 ได้รับหน้าที่ในตำแหน่งรองหัวหน้าทีมและปี 2015 เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าทีมหงษ์แดงแทน สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมที่ย้ายไปอยู่ ลอสแอนเจลิส แกแลกซี ในช่วงเวลาของการเล่นฟุตบอลอาชีพเฮนเดอร์สันเป็นนักเตะคนเดียวที่สามารถคว้ารางวัลนักเตะดีเด่นแห่งปีทั้งในรุ่นเยาวชนและรุ่นใหญ่ ควบคู่กันไปในปี 2014
ทีมแรกในลีกของเฮนเดอร์สันกับซันเดอร์แลนด์
เฮนเดอร์สัน เริ่มต้นเล่นฟุตบอลครั้งแรกกับทีมระดับเยาวชนของสโมสรซันเดอร์แลนด์ตั้งแต่อายุ 7 ขวบและสามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้กับทีมเยาวชนแมวดำซันเดอร์แลนด์คว้าแขมป์ลีกเยาวชน U 18 มาครองได้สำเร็จ หลังจากที่สามารถสร้างผลงานได้อย่างดีเยี่ยม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ถูกผลักดันและเลื่อนให้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของซันเดอร์แลนด์อย่างเต็มตัวในตำแหน่งปีกขวา
นักเตะในตำแหน่งนี้แต่เดิมถูกเรียกว่าตำแหน่ง “กองหน้าตัวนอก” โดยผู้เล่นในตำแหน่งนี้จะทำหน้าที่บุกริมเส้นใช้ความเร็วฝ่าทะลวงฟลูแบ็กหรือกองหน้าของทีมฝ่ายตรงข้ามเพื่อเข้าทำประตูเอง หรือแอสซีสบอล หรือโยนบอลให้กองหน้าทำประตู ความเร็ว ความแข็งแกร่งและความแม่นยำของนักเล่นในตำแหน่งนี้จึงมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก
การเดินทางสู่หงษ์แดงลิเวอร์พูล
ด้วยผลงานที่โดดเด่นตลอดมาและเป็นนักเตะที่มีรูปแบบการเล่นในสนามเหมือน สตีเวน เจอร์ราร์ด ในปี 2011 สโมสรแมวดำซันเดอร์แลนด์ปิดดีลกับหงษ์แดงลิเวอร์พูลเป็นที่เรียบร้อยด้วยการซื้อตัวเฮนเดอร์สันไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์พร้อมกับความหวังของหงษ์แดงว่าเฮนเดอร์สันจะมาเป็นสตีเวน เจอร์ราร์ด คนต่อไปแห่งถิ่นแอนฟีลด์
เฮนเดอร์สัน ประเดิมการลงสนามในฐานะนักเตะหงษ์แดงในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011-2012 ที่สนามแอนฟีลด์โดยเป็นการพบกับทีมต้นสังกัดเก่าสโมสรแมวดำซันเดอร์แลนด์และจบลงด้วยสกอร์ที่สวยงาม 1 ต่อประตู่ต่อ 1 จากนั้นเฮนเดอร์สันได้ลงเป็นตัวจริงทุกนัด จนนัดที่ 3 ของฤดูกาลที่หงษ์แดงเปิดบ้านรับการมาเยือนของสโมสรโบลตัน เฮนเดอร์สันสามารถทำประตูแรกของเขาได้ในถิ่นแอนฟีลด์ และจบเกมด้วยชัยชนะของทีมหงษ์แดงลิเวอร์พูล 3 ประตูต่อ 1 ก่อนที่จะจบฤดูกาลด้วยการลงสนามทั้งหมด 37 นัดทำได้ 2 ประตู
ฤดูกาล 2012-2013 ทางสโมรฟูลัมติดต่อขอซื้อตัว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก่อนที่เฮนเดอร์สันจะตัดสินใจอยู่กับทีมหงษ์แดงต่อไปอีกหนึ่งฤดูกาล และในฤดูกาลนี้เขาทำได้ถึง 5 ประตูจากการลงสนามทั้งสิ้น 30 นัด ในฤดูกาลต่อมา 2013-2014 เฮนเดอร์สัน ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 4 ประตูจาก 35 นัดช่วยให้ทีมหงษ์แดงจบตารางด้วยอันดับ 2 ส่งผลให้ทีมหงษ์แดงลิเวอร์พูลได้กลับไปเล่นในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา
ในฤดูกาล 2014-2015 ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญและเป็นเกียรติกับเฮนเดอร์สันเป็นอย่างมากเมื่อทางสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลได้แต่งตั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ให้เป็นรองกัปตันทีมแทน ดาเนียล อักเกอร์ ที่ย้ายออกไป และหลังจากจบฤดูกาลนี้เฮนเดอร์สันตัดสินใจต่อสัญญากับทางหงษ์แดงต่อไปอีกด้วยค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 100,000 ปอนด์
จากนั้นในฤดูกาลถัดมา 2015-2016 ทางสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลได้แต่งตั้งเฮนเดอร์สันให้เป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูลแทน สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ย้ายไปอยู่ ลอสแอนเจลิส แกแลกซี และในฤดูกาลนี้เฮนเดอร์สันมีการบาดเจ็บกระตูกข้อเท้นแตกจนต้องพักรักษาตัวหลายเดือน
การต่อสัญญาก่อนนำทีมสู่แชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2018 เฮนเดอร์สันได้ต่อสัญญาระยะยาวกับทางสโมสรลิเวอร์พูล และในช่วงปี 2019 นี้เองที่เขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์รายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จและเป็นสมัยที่ 6 ของสโมสรหงษ์แดงอีกด้วย ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-2020 จบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จพร้อมเฮนเดอร์สัน คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ FWA ของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษพร้อมทั้งติดทีมยอดเยี่ยมของ PFA ร่วมกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน, เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ และ ซาดีโย มาเน อีกด้วย
กัปตันทีมสโมสรหงษ์แดง ลิเวอร์พูล ที่ควรค่าแก่การยกย่อง