ทีมลิเวอร์พูล บุกอัด ทีมเซาแธมป์ตัน คาบ้าน ด้วยผล 2-1

ทีมลิเวอร์พูล บุกอัด ทีมเซาแธมป์ตัน คาบ้าน ด้วยผล 2-1
สำหรับคนไหนเฝ้าติดตามวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด คงน่าจะได้รับชมรายการแข่งขันเมื่อวันอังคารที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการพบกันระหว่างทีมเซาแธมป์ตัน และทีมลิเวอร์พูล แต่ละทีมขนทัพนักเตะชื่อดังมาร่วมลงสนามด้วยคับคั่ง ทำเอาแฟนๆ ลุ้นใจจดใจจ่อเลยทีเดียว
โดยผลการแข่งขันนัดดังกล่าวปรากฏว่าทีมลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะมาครอบครองได้สำเร็จ ด้วยผล 2-1 ประตู ส่วนรายละเอียดต่างๆ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ลองมาติดตามไปพร้อมกันภายในบทความนี้
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021-22 นัดที่ผ่านมา ทีมเซาแธมป์ตัน (อันดับ 15 ในตาราง) มีการเปิดบ้าน เพื่อดวลแข้งกับทีมลิเวอร์พูล (อันดับ 2 ในตาราง) โดยทางฝั่งเจ้าบ้านส่งนักเตะดังๆ ลงสนามเพียบ เช่น ไคล์ วอลเกอร์ ปีเตอร์ส , โมฮัมเหม็ด ซาลิซู , อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์ , นาธาน เรดมอนด์ และเจมส์ วอร์ด เพราส์ เป็นต้น
ขณะที่ทีมเยือนอย่าง “หงส์แดง” ก็ขนนักเตะยอดฝีเท้ามาเยอะเหมือนกัน เช่น อลิสสัน เบคเกอร์ , อิบราฮิมา โกนาเต , คอสตาส ซิมิคาส , ทาคูมิ มินามิโนะ และเจมส์ มิลเนอร์ เป็นต้น
สำหรับในช่วงครึ่งแรก เหตุการณ์นาทีที่ 13 ทางด้านทีมเซาแธมป์ตัน ทำประตูแรก เป็นฝ่ายนำด้วยผล 1-0 ประตู ต่อมาเมื่อถึงนาทีที่ 27 ฝั่งทีมลิเวอร์พูล ไม่รอช้าอีกต่อไป ขึ้นมาตีเสมอด้วยผล 1-1 ประตูก่อนจบครึ่งแรก และมาต่อกันในครึ่งหลัง เหตุการณ์นาทีที่ 67 ทีมลิเวอร์พูลสามารถขึ้นมานำได้แล้ว ด้วยผล 2-1 ประตู
ส่งผลให้ทีมดังกล่าวคว้าชัยชนะมาครอบครองในที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าสร้างความปราบปลื้มให้แก่แฟนๆ ของทีม “หงส์แดง” เป็นอย่างมาก ขณะที่แฟนๆ ทีม “นักบุญแดนใต้” ก็ดูเหมือนจะออกอาการผิดหวังพอสมควรเลย
ผลรายการแข่งขันในนัดนี้ สรุปว่าทีมเยือน อย่าง ทีมลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะเหนือทีมเซาแธมป์ตัน ด้วยผลการแข่งขัน 2-1 ประตู แต่นอกเหนือจากการคว้าชัยแล้ว ทีมลิเวอร์พูลยังเก็บคะแนนเพิ่มอีก 89 คะแนนด้วย โดยปัจจุบันรั้งอันดับ 2 ต่อไปอย่างเหนียวแน่น ซึ่งไล่ตามทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นเจ้าของอันดับหัวตาราง เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้นเอง
เรียกได้ว่าไล่ล่าในระยะเผาขนเลยด้วยซ้ำไป จากการลงสนามแข่งขันทั้งหมด 37 นัดเท่าๆ กัน ดังนั้นระหว่างทีมลิเวอร์พูล และทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใครจะเป็นฝ่ายมาวินในศึกครั้งนี้ ต้องรอไปลุ้นการชิงแชมป์ภายในนัดสุดท้าย เชื่อว่าบรรดาเหล่ากูรูแห่งวงการฟุตบอลศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะต้องออกมาวิเคราะห์กันเยอะแน่ๆ ดังนั้นศึกดังกล่าวคงจะคึกคักไม่แพ้ปีก่อนแน่นอน