ร่วม 4 ปี “ กองเต ” ปิดทองหลังพระ

ร่วม 4 ปี “ กองเต ” ปิดทองหลังพระ

เอ็นโกโล ก็องเต มิดฟิลด์ห้องเครื่องร่างเล็ก ปอดเหล็ก ชาวฝรั่งเศส ของสโมสร เซลซี ยังคงเป็นตัวหลักให้กับ “ สิงโตน้ำเงินคราม ” เสมอไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลง ตำแหน่งผู้เล่น อยู่หลายตำแหน่ง แต่สำหรับ กองเต แล้ว ตัวเขาเอง ก็ยังเป็นแกนหลักให้กับทีมในแดนกลาง นับตั้งแต่ย้ายเข้ามาร่วมทีม เชลซี

นับตั้งแต่ กองเต เข้ามาสวมยูนิฟอร์ม “ สิงโตน้ำเงินคราม ” เชลซี เมื่อกลางฤดูกาล 2016 ซึ่ง เชลซี ได้คว้าตัวมาจากสโมสร เลสเตอร์ ซิตี ในราคา 33 ล้านปอนด์ ( 1,320 ล้านบาท ) ซึ่งดูว่าเป็นราคากลาง ๆ สำหรับนักเตะที่เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ห้องเครื่อง และตอนนั้น สโมสร เชลซี ก็มี อันโตนีโอ กอนเต จนถึง ฤดูกาล 2018 ที่มี เมารีซีโอ ซาร์รี เข้ามารับงานช่วงต่อกองเต ก็ยังเป็นตัวหลัก ในช่วงที่มีการผันเปลี่ยนผู้จัดการทีมในระยะเวลา 2 ปี และในปัจจุบันนี้ ภายใต้การคุมทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด โค้ชหนุ่มไฟแรง กองเต ก็ยังเป็นผู้เล่นที่เป็นแกนหลักให้กับทีมในแดนกลางเช่นเดิม ซึ่งหากจะพูดถึง ตั้งแต่ กองเต ย้ายเข้ามาร่วมทัพ เชลซี ตัวเขาเองกลายเป็นนักเตะตัวหลักให้กับทีมมาโดยตลอด ถึงแม้ว่า กองเต จะไม่ได้มีการกล่าวถึงบ่อยนัก หรือว่ามีชื่อบนสกอร์บอร์ด มากเท่ากับกองกลางรายอื่น ๆ แต่สำหรับ กองเต แล้ว หากนัดไหนไม่มี กองเต อยู่ในสนาม ดูเหมือนว่าสถิติที่สโมสร เชลซี จะมีโอกาสแพ้ หรือเสมอ จะมีมากกว่าที่จะคว้า 3 แต้ม ได้

กองเต เป็นนักเตะที่มีรูปร่างเล็ก ซึ่งเขามีส่วนสูงเพียงแค่ 168 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ถ้าหากจะเทียบศักยภาพและคุณภาพเมื่อครั้งที่ กองเต เล่นอยู่ในสนาม คงจะหาตัวผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ห้องเครื่อง ที่สามารถจะเทียบชั้นฝีเท้าได้ยากเนื่องจากจุดเด่นของ กองเต เป็นนักเตะที่มีรูปร่างก็จริง แต่ว่าความเร็วของ กองเต สามารถออกสตาร์ทเบียดแย่งบอลในระยะ 5 หลาได้ดีกว่าคู่แข่งมาโดยตลอด ถึงแม้ว่า กองเต จะเป็นนักเตะที่รูปร่างเล็กอย่างที่กล่าวมาก็ตาม แต่สำหรับการแย่งชิงลูกกลางอากาศ ซึ่งดูเหมือนว่า กองเต จะเสียเปรียบแต่ กองเต เอง ก็เป็นนักเตะที่สามารถจัดการกับปัญหา ที่ตัวเขาเองจะพลิกสถานการณ์กุมความได้เปรียบได้อย่างดีเยี่ยม

ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันนัดไหนที่มี กองเต อยู่ในสนาม สถิติที่เด่นชัดของ กองเต นั่นก็คือการ แท็คเกิล เข้าสกัดบอล ซึ่ง กองเต สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในทุก ๆ นัด และผลงานในนัดล่าสุด ที่สโมสร เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ “ ดาบคู่ ” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กองเต ก็มีสถิติที่น่าทึ่ง ให้กับทีม เชลซี อีกครั้ง ซึ่งตัวเขาเองสามารถ แท็คเกิล เอาชนะเหล่าบรรดากองหน้า หรือตัวทำเกมรุกของ เชฟฟิลด์ ได้ถึง 5 ครั้ง

และสิ่งที่พิสูจน์ได้เด่นชัดที่สุด กับการลงยืนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ในนัดที่พบกับ เชฟฟิลด์ คือ แท็คเกิล สามารถแย่งบอลจากคู่แข่งได้ถึง 11 ครั้ง ซึ่งไม่เกิดการทำฟาวล์เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ด้วยสาเหตุนี้ แฟรงก์ แลมพาร์ด จึงรู้สึกประทับใจ กองเต เป็นอย่างมาก หลังจากที่ แลมพาร์ด สามารถจัดตัวผู้เล่นลงสนามได้อย่างลงตัว โดยในพักหลังนี้ แลมพาร์ด ได้วางให้ กองเต ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ และให้ ไค ฮาแวทซ์ ยืนเป็นกองกลางตัวรุกแบบเต็มตัว และดูเหมือนว่าทั้ง 2 นักเตะ ในแดนกลางของ แลมพาร์ด ที่มีรูปแบบและการเล่นที่แตกต่างกันจะสามารถประสานงานเข้าขากันได้เป็นอย่างดี เมื่อครั้งอยู่ในสนาม และเชื่อได้เลยว่า ในฤดูกาลนี้ แลมพาร์ด คงจะใช้บริการ กองเต และ ฮาแวทซ์ ยืนสร้างสรรค์เกมรุกให้กับ เชลซี ทั้งฤดูกาลเป็นแน่